ดูสถานที่ปฏิบัติธรรม

บนเนื้อที่ 28 ไร่ ท่ามกลางธรรมชาติ คันคลองและสระน้ำ ของสถานปฏิบัติธรรมกึ่งรีสอร์ตแห่งนี้ ประกอบด้วยศาลาต้อนรับส่วนกลาง พร้อมโรงครัว และโรงทานเปิดเป็นโถงโล่ง

มีหอประชุมและอาคารเรียน จุคนได้ประมาณ 300 คน มีอาคารที่พักของแม่ชีและสามเณรี 2 หลัง

แยกเป็นสัดส่วนต่างหาก พร้อมเรือนพยาบาลและทันตกรรม กับห้องสอบอารมณ์อยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน





นอกจากอาคารที่พักของเก่าที่ปลูกสร้างมานาน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ แล้ว

ยังมีอาคารหอพักพระนักศึกษา ขนาด 60 ห้อง ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

ด้วยทุนประเมินเบื้องต้นประมาณ 16 ล้านบาท ไม่รวมค่าวัสดุตกแต่งและสารธาณุปโภคอื่นๆ

ทั้งนี้ คณะศิษย์ได้เสนอให้ก่อสร้างขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพระนักศึกษาจากทั่วประเทศ อายุระหว่าง

18-40 ปี ที่เดินทางเข้ามาศึกษาทั้งด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระ หลักสูตรเรียนฟรี พร้อมอยู่ประจำ 2 ปี

ที่ทางมูลนิธิฯ เปิดรับนักศึกษารุ่นแรก นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2530 เป็นต้นมา ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าเป็นนักศึกษาได้ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน โดยจะมีการสอบคัดเลือกนักศึกษาในเดือนพฤษภาคมของทุกปี





ท่านอาจารย์วรรณสิทธิ ไวทยะเสวี วิปัสสนาจารย์ผู้ควบคุมการอบรมกล่าวว่า

พุทธบริษัท 4 ที่ผ่านการอบรมทั้งภาคปริยัติและการปฏิบัติ หากมีความเข้าใจดีแล้ว

สามารถขอเข้าพักในเรือนกรรมฐาน เพื่อปฏิบัติภาวนาได้เองตามสมควร คือ

ในครั้งแรกอย่างน้อย 3-10 วัน และครั้งต่อๆ ไป ไม่เกินครั้งละ 30 วัน

โดยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ล้วงหน้า อย่างน้อย 3 วัน





สถานที่ปฏิบัติธรรมของมูลนิธิแนบมหานีรานนท์ มีเรือนกรรมฐานรองรับผู้เข้าปฏิบัติธรรม

จำนวนทั้งสิ้น 60 หลัง แบ่งเป็นชาย 30 และหญิง 30 หลัง สงบสงัดและปลอดภัย เป็นเรือนเดี่ยว

ชั้นเดียวสำหรับอยู่คนเดียว แยกห่างออกจากกันท่ามกลางแมกไม้ มีรูปทรงเหมือนกันทุกหลัง ขนาดกำลังพอเหมาะ พร้อมห้องน้ำในตัว อุปกรณ์สุขภัณฑ์ครบครัน มีเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น เช่น เตียงนอนพร้อมเสื่อและฟูกอย่างบาง หมอน พร้อมผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน กับผ้าห่ม จัดไว้ในถุงสะอาด ผ่านการซักรีดเรียบร้อย โต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ และชั้นวางของ มีตะขอแขวนเสื้อติดผนัง ประตูหน้าต่างทุกบานติด

มุ้งลวด มีระเบียงรอบทั้ง4 ด้าน จัดไว้ให้เดินจงกรม